น้ำเสาวรส

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ น้ําเสาวรส

น้ำเสาวรส

 ส่วนผสม

  1. เสาวรส 5 กิโลกรัม
  2. น้ำ 2.5 ลิตร
  3. น้ำตาลทราย 600 กรัม
  4. เกลือ 10 กรัม

วิธีทำน้ำเสาวรส

  1. นำเสารสผ่าครึ่ง ตักเอาแต่เนื้อในออกมา จะได้ประมาณ 2,600 กรัม
  2. นำเนื้อในที่ได้มายีผ่านกระชอนที่ไม่ถี่นัก จะได้น้ำเสารสประมาร 1,000 กรัม ส่วนที่ค้างบนตระแกรง จะเป็นส่วนของเมล็ดที่มีสีดำ
  3. นำน้ำเสาวรสที่ได้มาผสมน้ำ ต้มให้เดือด ต้องระวังอย่าให้ฟองล้นหม้อ เพราะส่วนของฟองจะเป็นส่วนที่มีสีส้ม ทำให้น้ำเสาวรสมีสีส้มสวย
  4. เติมน้ำตาลทรายและเกลือปรุงรส กรองด้วยผ้าขาวบาง
  5. ตั้งไฟให้เดือดอีก 1-2 นาที
  6. ปล่อยให้เย็น รับประทานได้ทันทีโดยเสริฟกับน้ำแข็ง
  7. ถ้าต้องการบรรจุขวดสามารถทำได้ตามขั้นตอนการบรรจุขวด
  • น้ำเสาวรสเมื่อตั้งทิ้งไว้จะเกิดตะกอนสีส้มนอนกัน และน้ำจะเป็นสีใส แต่ถ้าเขย่าจะกลับมาเป็นสีส้มเหมือนเดิม เนื่องจากรงควัตถุในเสาวรสเป็นชนิดไม่ละลายน้ำ
  • เสาวรสที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ให้ล้างเปลือกให้สะอาด (ถ้าจะให้ดีใช้น้ำผสมคลอรีนล้าง) แล้วใส่ตระกร้าโปร่งเก็บไว้ เสาวรสจะเหี่ยว เปลือกย่น แต่ไม่เสีย มีรสชาติเข้มข้น เก็บได้นานเป็นสัปดาห์

    ประโยชน์


   - เสาวรสอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ ในขณะที่เสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 97 แคลอรีเท่านั้น

          - เสาวรสดีต่อการขับถ่าย ด้วยความที่มีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ไปได้ในตัว

          - ห่างไกลจากไข้หวัด เพราะเสาวรส 100 กรัม พกวิตามินซีมาด้วยถึง 30 มิลลิกรัม การันตีได้ว่า กินเสาวรสเป็นประจำแล้วจะห่างไกลจากไข้หวัด แถมมีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงแน่นอน

          - บำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม เพราะไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยวิตามินเอเท่านั้น ทว่าเสาวรสยังพ่วงสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีนและคริบโทแซนทินเบต้า (cryptoxanthin-ß) ซึ่งผ่านการศึกษามาแล้วว่า สารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่ไปกับวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี

          - บำรุงหัวใจและความดันโลหิต เพราะเสาวรสอุดมไปด้วยโพแทสเซียมถึง 384 มิลลิกรัมต่อเสาวรส 100 กรัม ซึ่งโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อเซลล์และของเหลวในร่างกายของเรา รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย

          - ป้องกันมะเร็งปอดและมะเร็งช่องปาก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์และวิตามินเอมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงมะเร็งทั้ง 2 ชนิดนี้ได้


                                              

























                 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

น้ำฟักทอง

น้ำเงาะ

น้ำฟักเขียว